บัวหิมะธิเบต หรือ Kefir

(คนละตัวกับครีมบัวหิมะจากประเทศจีนนะคะ)

มาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าค่ะ

Kefir อ่านออกเสียงอย่างไร?
การอ่านออกเสียงที่เหมาะสมต้องอ่านว่า "kuh-feer" แต่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกามักจะอ่านว่า "kee-fur" ค่ะ


Kefir grain คืออะไร
Kefir grain คือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ประกอบไปด้วย แบคทีเรีย และยีสต์ หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งเป็นแหล่งของโปรตีน สารอินทรีย์จำพวกไขมัน และน้ำตาล รูปร่างหน้าของ Kefir grain จะมีลักษณะรวมตัวเป็นกลุ่มๆ คล้ายดอกกระหล่ำ

Kefir grain มีเอนไซม์ที่เป็นมิตรกับจุลชีพในร่างกายมนุษย์ ทำให้เสริมความสมดุลย์ภายในได้ดี มนุษย์จึงได้มีการนำ Kefir grain มาเลี้ยงไว้ในน้ำนมเพื่อผลิตเป็นโยเกิร์ตที่มีรสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นเฉพาะ และในโยเกิร์ตที่ได้ก็มีสารที่มีประโยชน์หลากชนิด อาทิ โปรตีน เกลือแร่ที่จำเป็น และวิตามินฺบีต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์จากการหมักจนได้เป็นโยเกิร์ตนี้ มักถูกเรียก Kefir เฉยๆ


วิธีการทำ นม Kefir



สามารถหาอ่านได้จากหลายๆ บล็อกที่มีผู้ใจดีอธิบายไว้อย่างละเอียดแล้ว ขอไม่เขียนถึงในบทความนี้นะคะ (อาจมาเขียนเพิ่มเป็นอีกบทความทีหลัง)














ผลการวิจัยผลิตภัณฑ์ นม Kefir


จากแผนผังด้านบนจะเห็นคุณประโยชน์ต่อร่างกายที่สำคัญมากทีเดียว
ช่วยในการย่อย การเผาผลาญ ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การต้านทานต่อโรค









จากตารางข้างบนจะเห็นว่ามีแบคทีเรียและยีสต์ (จุลชีพ) หลากหลายสายพันธุ์ ที่มีคุณประโยชน์มากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป และ สายพันธุ์ของจุลชีพเหล่านี้ มีความทนทานกว่าจุลชีพที่อยู่ในโยเกิร์ตทั่วไปๆ อย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มักตายไปเป็นจำนวนมากก่อนจะไปถึงลำไส้ของเราอีกด้วย

แล้วเราจะทานจุลชีพพวกนั้นไปทำไม? อย่างที่รู้กันบ้างแล้วนะคะ ว่าลำไส้ของเราเป็นที่อยู่ของจุลชีพมากมาย มีทั้งที่สายพันธุ์เ็ป็นมิตร และศัตรูกับเรา ถ้าตัวที่เป็นศัตรูของเรามากเกิน เราก็จะเกิดอาการท้องเสีย ท้องรั่วกันนั่นละค่ะ เราจึงต้องหาจุลชีพสายพันธุ์ที่เป็นมิตรเข้าไปสู้กันหน่อย แล้วที่นี้อาการท้องเสียท้องร่วงที่ทำท่าจะหนักก็จะทุเลาลงได้ค่ะ (อาการนี้ จากประสบการณ์ตัวเองด้วยค่ะ)

รูปภาพผลิตภัณฑ์ นม Kefir
เป็น รูปภาพผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ (ในประเทศไทยยังไม่เห็นมีผู้ผลิตขายจริงจังค่ะ ส่วนใหญ่จะขายบนร้านค้าออนไลน์ที่ทำกันเอง บรรจุภัณฑ์กันเองแบบโฮมเมดค่ะ แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มักไม่นิยมนำมารับประทาน แต่จะนำมาพอกหน้า ให้หน้าใสมากกว่าค่ะ)

ก็พอรู้จักกันบ้างแล้วนะคะ ส่วนตัวเจ้าของบล็อก ก็เลี้ยง Kefir มาหลายเดือนแล้ว รับประทานเกือบทุกวัน เหลือก็นำมาทาผิว ยอมรับเลยค่ะว่าผิวที่ทาจะใสขึ้น เพราะความเป็นกรดอ่อนๆของ Kefir ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังเก่าออกไปได้ค่ะ (คนที่รู้จัก ใช้แล้วสิวที่หน้าก็ลดจำนวนลงด้วยค่ะ) ส่วนสุขภาพกายก็ปกติดี แต่ผลที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ เลยคือ จะนอนหลับสบายทั้งคืนเลย เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีปัญหาการนอนค่ะ

ถ้าใครสนใจอยากแบ่งนำไปเลี้ยงบ้างก็ทิ้งความเห็นไว้ได้นะคะ แต่จะมีเงื่อนไขนิดนึงเพื่อยืนยันว่าต้องการเลี้ยง Kefir จริงๆ เพราะไม่อยากให้ใครที่แค่ต้องการเลี้ยงเล่นๆ มาขอไปค่ะ เพราะส่วนใหญ่ พอไม่มีเวลาก็เอา Kefir ไปทิ้ง หรือไม่ใส่ใจในการเปลี่ยนนม จน Kefir ตายไปค่ะ


ก่อนขอไปเลี้ยงอยากให้อ่านวิธีการเลี้ยงก่อนโดยสามารถ คลิกได้
ที่ http://kefirthailand.exteen.com/category/KefirHowTo

เอกสารอ้างอิงดีๆ ไปอ่านเพิ่มเติมได้นะคะ ^-^
http://en.wikipedia.org/wiki/Kefir
http://www.kefir.net/
http://community.livejournal.com/kefir_culture/1613.html
http://kefir-solidario.blogspot.com/2005/05/kefir-complex-probiotic-edward-r.html